เนื้อเรื่องโดยส่วนใหญ่เริ่มตึงเครียดขึ้นเมื่อเพื่อนชายในวัยเด็กของเธอที่ชื่อ Khalil โดนตำรวจผิวขาววิสามัญฆาตกรรมต่อหน้าเธอข้างๆรถของเขา เธอเลยกลายเป็นพยานปากเอกในคดีครั้งนี้ ประเด็นซีเรียสหลักๆของเนื้อหาทั้งหมดคือการที่ตำรวจผิวขาวในอเมริกามีการวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยที่เป็นกลุ่มคนผิวดำบ่อยขึ้นมากกว่ายุคก่อนๆ ทำให้ผู้คนในสังคมโดยเฉพาะคนดำเอง รวมทั้ง people of colors จากประเทศต่างๆเกิดความไม่พอใจและตั้งคำถามถึงปัญหานี้ ซีนกระชากอารมณ์ก็มีอยู่หลายจุด แต่จุดที่ทำให้เรา break down จริงๆคือตอนที่ Starr ไปงานศพของ Khalil นี่ละ Angie เขียนอธิบายฉากนี้ได้โคตรสะเทือนใจเลย เด็กหญิงอายุ 16 ต้องมางานศพเพื่อนตัวเองที่วัยเท่าๆกัน แถมเธอยังเห็นการตายของเขาต่อหน้าต่อตาโดยที่ช่วยอะไรไม่ได้ เรื่องนี้มันยากเกินใจจะอดทนจริงๆ วันนั้นเราพก Kindle เราไปนั่งอ่านไปกินไปที่ร้านไก่ผู้พัน พอถึงฉากนี้เราน้ำตาไหลอาบแก้มเลย มันกลั้นไว้ไม่ไหวจริง ทั้งสงสาร Starr ทั้งเจ็บแค้นในชะตากรรมที่ Khalil ต้องประสบ
พ่อแม่ของ Starr ซัพพอร์ทเธอดีมากๆทั้งในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่และความรู้สึกของเธอหลังจากเหตุการณ์บ้าๆนั้นเกิดขึ้น ต้องคอยพาเธอตระเวนไปพบให้ปากคำ ไปพบทนายเพื่อซักซ้อมในการไต่สวน มีไปออกรายการทีวีด้วย และในที่สุดก็ต้องไปขึ้นศาล เนื้อเรื่องจะวนๆกับความเครียดของ Starr ในจุดนี้มากพอสมควร มันเป็นการยากที่ Srarr จะต้องเปิดเผยตัวว่าเธอนี่ละคือพยานเด็กสาวในคดีตำรวจผิวขาวยิงเด็กหนุ่มผิวดำหน้ารถวันนั้น เพราะเพื่อนๆที่โรงเรียนก็จะรู้ นอกจากนี้ยังมีมาเฟียใหญ่ของแก๊งค์ค้ายาที่กลัวความลับถูกเปิดโปงเข้ามาร่วมด้วย ถ้าเธอเลือกจะพูดความจริงไปทั้งหมด ชีวิตของคนในครอบครัวเธอก็จะอยู่ไม่เป็นสุขแน่ๆ Starr เครียดจนอ้วกไปหลายรอบมากเท่าที่จำได้ เพราะเธอต้องเลือกระหว่างเรื่องของตัวเองกับการทวงความยุติธรรมให้เพื่อน ความเครียดทุกอย่างนี้ถูกตัดสลับกับความไม่ค่อยจะลงรอยกันของเธอกับเพื่อนสาวอีกคนนึงในกลุ่ม รวมทั้งปัญหาเบาๆกับพ่อเรื่องที่เธอมีแฟนหนุ่มเป็นคนผิวขาว เราว่ามันดีที่มีเนื้อเรื่องมาเสริมให้เราไม่ต้องโฟกัสไปกับเรื่องเครียดๆของคดีจนเกินไป ทำให้เราได้เห็น Starr ในอีกมุมว่าเธอเป็นยังไงเวลาที่อยู่กับเพื่อนหรืออยู่กับแฟน
อีกจุดที่เราคิดว่าหนักเอาการคือเรื่องราวชีวิตของคนดำ มันเหมือนต้องสาป มันเหมือนวงจรอุบาทว์อะไรสักอย่างที่มักโดนคนมองแต่ภายนอกแล้วตัดสินว่าไม่ดี ในขณะที่ก็มีคนดำบางกลุ่มทำตัวไม่ดี เป็นแก๊งค์ค้าขาย เป็นอันธพาลจริงๆ เรื่องนี้ถือได้ว่าตีแผ่ให้เห็นสภาพชีวิตและวัฒธรรมของคนดำในยุคใหม่ได้ดีเลย แต่นั่นก็นำมาซึ่งคำศัพท์หลายๆอย่างที่คนไทยอาจจะไม่เข้าใจ เป็นแสลงที่ใช้กันเฉพาะในกลุ่มคนดำ ไม่ว่าจะเป็นคำพูดทั่วไปอย่าง A'ight ที่แปลว่า All right หรือคำที่ใช้เรียกสิ่งของอย่างรองเท้า Nike รุ่น Air Jordan เขาก็จะมีวิธีเรียนในแบบของเขาที่คนทั่วไปที่ไม่ใช่ sneakerhead อาจจะไม่เข้าใจ รวมไปทั้งเรื่องทางวัฒนธรรมอย่าง Black Jesus ที่เราอาจจะไม่เคยรู้จักมาก่อน นี่ยังไม่นับศัพท์ที่เกี่ยวกับเรื่องแก๊งค์ค้ายานะ ทั้งตำแหน่งคน ทั้งอะไรต่อมิอะไรเยอะมาก อ่านเล่มนี้ต้องเปิด urban dictionary ไปด้วยรัวๆเลย dict built-in ใน Kindle เอาไม่อยู่ แต่เชื่อมั้ยว่ายิ่งอ่านก็ยิ่งอยากเห็นเล่มนี้เอามาแปลเป็นไทย อยากจะรู้ว่าเขาจะแปลออกมายังไง เลือกใช้คำแบบไหน เราว่ามันแปลยากเอาการเลย คนแปลต้องทำการบ้านเกี่ยวกับชีวิตคนดำในรูปแบบชาวแก๊งค์มากพอสมควรเลยถึงจะแปลได้อย่างเข้าถึง
เรื่องนี้เป็น it's a must เลย เราแนะนำทุกคนให้อ่านจริงๆนะ เราอ่านจบแล้วชอบมากๆ ถ้าเราจะต้องให้ของขวัญใครเป็นหนังสือ ไม่ว่าเขาจะเพศใดวัยไหน เราเลือกเล่มนี้แน่นอน อยากให้ทุกคนได้อ่านกัน ถึงแม้ว่ามันจะเครียด กดดัน มีน้ำตา แต่มันเต็มไปด้วยความดีงามของพลังการต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม มันอาจจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้คนตัวเล็กๆอย่างพวกเราได้หันมา stand up and speak out บ้างก็ได้ เราเชื่อว่าสังคมไทยยังคงต้องการคนแบบ Starr จริงๆนั่นแหละ
อ่านอะไรต่อดี >> Wing Jones by Katherine Webber, Dear Martin by Nic Stone
อ่านอะไรต่อดี >> Wing Jones by Katherine Webber, Dear Martin by Nic Stone
No comments :
Post a Comment