Tuesday 27 October 2015

October 2015 | Book Haul



ห่างหายกันไปนานมากๆกับการเห่อหนังสือ สารภาพตรงๆว่าอ่านหนังสือน้อยลงมาก เพราะไปติดกับการดูหนังอินเดียแทน รวมทั้งไปหมกมุ่นกับการทำ traveler's notebook ด้วย แต่ถึงจะยังไงก็ไม่พลาดเด็ดขาดที่จะไปเดินงานหนังสือทุกครั้ง และครั้งนี้เช่นกัน มาดูไปพร้อมๆกันนะว่าได้อะไรมามากน้อยแค่ไหน

1. Coool ..... อินเดีย - เกด-ริน

เป็นหนังสือจากบูธอทิตตาที่อยู่นอกแผนการที่จะซื้อในครั้งนี้อย่างสิ้นเชิง แถมไม่ได้ตั้งใจที่จะแวะบูธนี้เลยด้วยซ้ำ เป็นแค่ทางเดินผ่านที่จะไปบูธอื่น แต่สายตาก็ปะเข้ากับกองลดราคาพอดี เห็นว่ามันเกี่ยวกับอินเดีย สิกขิมและดาร์จีลิ่ง เมืองทางเหนือที่เราเริ่มหันมาสนใจมากขึ้น ก็เลยจัดไปซะหน่อย แค่ 50 เอง

2. ในกระเป๋าเดินทางมีหัวใจ - ยินริน

มาจากกองลดเช่นกัน แถมราคาก็ถูกกว่ามากด้วย แค่ 30 บาท ถูกเหลือเชื่อเลย เท่าที่เปิดดูคร่าวๆเป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวเมืองแถบยุโรป ลอนดอน ปารีส เวียนนา เบอร์ลิน ลูเซิร์น อะไรทำนองนี้แหละ ลองอ่านสำนวนไปสองสามประโยคก็ดูชิลๆดี ด้วยความที่ราคามันไม่แพงเลยควักเงินง่าย

3. Urban Sketching 

นี่คือคัมภีร์สำหรับผู้มีใจรักการสเก็ตช์ภาพสีน้ำทุกคนต้องมีติดไว้ ยิ่งโดยเฉพาะคนที่ชอบเขียนบันทึกประเภท travel journal ด้วยแล้วเนี่ยยิ่งพลาดไม่ได้เลย มาวันนี้ได้แปลเป็นไทยเรียบร้อยแล้ว มุมมองของการสเก็ตช์ภาพแบบนี้น่าจะเทียบได้กับการถ่ายภาพแนวสตรีทนะ เรื่องราคาพูดแล้วช้ำใจ เราไม่รู้ว่าสำนักพิมพ์เขามาออกบูธด้วย เช็คแล้วแหละแต่เช็คพลาดเอง เลยไปได้จากบูธ B2S ที่ขายราคาเต็ม 350 เลย พอกลับบ้านมาเจอเบาะแสว่าสนพ.ก็มาออกเหมือนกัน และขายที่ 289 เท่านั้น เซ็งเป็ดสุดๆ


4. I Can't Think Straight - Shamim Sarif

นิยายเลสชื่อดังที่ถูกสร้างเป็นหนัง เนื้อหาเกี่ยวกับหญิงสาวสองคนที่โตมาจากประเทศที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม แต่พวกเธอกลับพบว่าตัวเองรักผู้หญิงด้วยกัน โหยย เราชอบอะไรแนวนี้มาก อะไรที่ท้าทายพวกหัวเก่านี่ชอบที่สุด และส่วนตัวก็ consider ตัวเองเป็นหนึ่งใน LGBT เหมือนกัน เล่มนี้ของสำนักพิมพ์สะพาน ที่ก็ไม่ลดเลยสักกะบาท จ่ายเต็มๆที่ 250 จ้า

สำหรับ งานหนังสือรอบนี้ก็ได้มาแค่นี้ละนะ ถือว่ากำลังดี ไม่มากไม่น้อยดีละ น่าจะอ่านจบได้ในเวลาไม่นานมากนัก นี่ก็เริ่มอ่านนิยายไปแล้วประมาณสามบทได้ จะรีบอ่านต่อให้จบไวๆจะได้มีอะไรมารีวิวกะเขาบ้างสักที ว่างเว้นมานานแล้ว





Thursday 7 May 2015

March 2015 | Book Haul

ห่างหายกันไปนานมากกับการเห่อหนังสือ และการเห่อครั้งนี้ก็ดองกันข้ามเดือนเลยทีเดียวเชียว เอาละ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูเลยแล้วกันว่าในเดือนมีนาฯนั้นจะมีหนังสืออะไรที่ได้มาบ้าง ซึ่งทั้งหมดก็ได้มาจากงานหนังสือนี่ละค่ะ



1. Crazy Love - Leslie Morgan Steiner


เริ่มที่เล่มแรกเป็นหนังสือแปลจากสำนักพิมพ์สันสกฤตค่ะ เป็นเรื่องราวของอดีตบ.ก.ของนิตยสารวัยรุ่นหัวนอกชื่อดังของอเมริกาอย่าง Seventeen ชีวิตแต่งงานของเธอเหมือนจะดูดี แต่เจอกับสามีที่ชอบใช้กำลัง เธออดทนอยู่หลายปีจนต้องระเบิดออกมาในที่สุด สำหรับเล่มนี้ซื้อมาในราคาลดกระจายเลยค่ะ 50 บาทเอง เหมือนโละสต็อกยังไงก็ไม่รู้

2. ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้ - ปอ


สำหรับเล่มนี้เป็นประสบการณ์ท่องเที่ยวคนเดียวของนักศึกษาไทยที่เรียนในประเทศรัสเซียค่ะ เขียนเล่าประสบการณ์ของเธอที่ไปมาแล้วหลายประเทศ จำไม่ได้แน่ชัดว่าเท่าไหร่ แต่ว่าลดราคาลง 30% จากราคาปกค่ะ น่าจะไม่ถึง 200 ดีล่ะค่ะ

3. Facing the Monster - Romain


ฟังชื่อแล้วไม่เหมือนหนังสือประสบการณ์ท่องเที่ยวสักเท่าไหร่ จะว่าไปก็ไม่เชิงว่าจะเป็นการท่องเที่ยวอยู่แล้วละค่ะ เป็นการย้ายถิ่นฐานไปอาศัยในประเทศใหม่ของหนุ่มฝรั่งเศสมากกว่า เป็นหนังสือที่แปลเป็นภาษาไทยอีกทีค่ะ แต่ฝรั่งคนเขียนเขาเอาต้นฉบับมาส่งที่อมรินทร์เองเลยนะ ไม่ใช่ว่าเราไปซื้อของเขามาเพื่อแปล เล่มนี้มีชื่อภาษาไทยด้วยว่า "ชีวิตใหม่เกิดจากการทำอะไรที่ไม่เหมือนเดิม" ราคาก็จำไม่ได้อีกเช่นเคย แต่ไม่น่าจะเกินสัก 170 แหละนะ

ผลของการหมักดองก็คือจำราคาแทบไม่ได้เลย ดีนะที่งานหนนี้มีของที่ต้องการไม่มาก ไม่งั้นละก็ยุ่งกว่านี้แน่ๆเลย ไว้ยังไงถ้าอ่านอะไรจบแล้วจะเอามาเขียนรีวิวเพิ่มเติมให้นะ สำหรับเดือนเมษาฯและเดือนนี้ไม่มีการเห่อแน่นอน เพราะเมษาฯไม่ได้ซื้ออะไรเลย รวมทั้งเดือนนี้ก็ฟันธงให้ตัวเองไปแล้วว่าคงไม่ได้เสียทรัพย์ให้อะไรสักเล่มชัวร์ๆ การเห่อจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ต้องติดตามกันเอาเองนะ




Monday 2 February 2015

January 2015 | Book Haul

เชื่อมั้ยว่าตอนแรกคิดไว้ว่าคงจะไม่มี book haul สำหรับเดือน January แล้วซะอีก เป็นเพราะว่าไม่มีหนังสืออะไรที่กระตุ้นความอยากได้สักเท่าไหร่เลย จนเมื่อวันที่ 31 วันสุดท้ายของเดือนพอดี ได้ไปเดินเล่นที่ AsiaBooks สาขาสุขุมวิท ก็เลยได้หนังสือจากชั้น bargain ติดไม้ติดมือมาถึง 2 เล่มด้วยกัน

1. Every Secret Thing - Gillain Slovo


สำหรับเล่มแรกนี้เราสนใจเพราะราคาก่อนเลย ยอมรับแบบหน้าไม่อาย ก็มันแค่ 59 บาทเองน่ะ แล้วรูปหน้าปกก็ดึงดูดค่ะ มันดูวินเทจแบบที่ชอบเลย คำโปรยที่หน้าปกก็ชวนตื่นเต้นนะ A book that will shock some people ทำให้อยากรู้มากว่ามันน่าช็อคยังไง พอลองเปิดด้านในช่วงหน้าแรกๆ มีรูปผู้หญิงคนนึงอยู่ ด้านใต้เขียนบรรยายไว้ว่าเป็นรูปของเธอที่ถ่ายไว้ก่อนวันที่เธอจะเสียชีวิต โอวว แค่นี้ก็กระตุ้นต่อมอยากอ่านได้แล้วค่ะ รีบคว้าไว้เลยเพราะเหลือแค่เล่มเดียวแล้ว

2. The Bastard of Istanbul by Elif Shafak


เล่มที่สองนี้ซื้อเพราะปกค่ะ เราเป็นคนที่ชอบหนังสือที่มีเรื่องราวแถบเอเชียใต้ เอเชียกลาง อะไรแถบๆนั้นแหละ มันมีเสน่ห์ดีสำหรับเรา พอดูปกเห็นมีรูปโดมที่เป็นสถาปัตยกรรมของประเทศแถบนั้นและมีคำว่าอิสตันบูลเลยก็ทำให้อยากได้ค่ะ ตอนแรกเราคุ้ยเจอเล่มนึงแล้วนะ เห็นแต่ราคาเก่าด้านหลังมัน 199 เลยวางไป ฮ่าๆ งกแท้ แต่พอวกกลับมาที่ชั้นอีกด้านก็เจออีกเล่ม ติดว่า 99 บาทชัดเจน เลยรีบสอยมาค่ะ

สรุปมาคิดเงินด้านล่าง แม่เจ้า มันซื้อ 1 แถม 1 ในเล่มราคาถูกกว่าค่ะ เลยจ่ายไปแค่ 100 เดียวเท่านั้น แต่ก็งงนะว่าทำไมไม่ได้ตังค์ทอน ฮ่าๆ ช่างเถอะ ตอนนั้นเราปวดๆท้องอยากเข้าห้องน้ำ เลยรีบๆลนๆ จริงๆเขาอาจจะพยายามทอนเราก็ได้แหละมั้ง แต่เรามัวรีบหูตาลาย เลยสะเพร่าไปเอง ถือว่าทิปไปละกันเนอะ ยังไงเดือนหน้ามาติดตามกันต่อค่ะว่าเราจะซื้อหนังสืออะไรเพิ่มอีกมั้ย เพราะเท่าที่มีตอนนี้กองดองก็ใหญ่โตมโหฬารแล้วจ้า


Sunday 4 January 2015

นิกกับพิม

                                              Source

สิ่งแรกที่เราจะนึกถึงเมื่อมีใครสักคนพูดถึงนิยายเรื่องนิกกับพิมก็คือ ทาร์ตสตรอว์เบอร์รี่ที่มีครีมสดราดหน้ากับทาร์ตเนยแข็งจากร้านฮูกะแน็ง อาจจะฟังดูเป็นคนตะกละตะกลาม เนื้อเรื่องมีอะไรตั้งเยอะแยะไม่จำ ดันมาจำอะไรกับของกินก็ไม่รู้ ใช่ เรายอมรับว่าเราเป็นเด็กตะกละ (โตขึ้นก็ยังคงเป็นผู้หญิงตะกละ) แต่ที่เราจำได้เพราะร้านฮูกะแน็งเป็นเหมือนสถานที่ที่เป็นเดทแรกและเดทครั้งสุดท้ายระหว่างพิเชษฐ์, หนุ่มนักเรียนวิศวะจากเยอรมัน และมณทิรา, สาวสวยที่ตามมาพักกับพี่ชายในสวิสฯ

เรามั่นใจมากที่จะบอกว่านิกกับพิมเป็นนิยายไทยเรื่องแรกที่เราอ่าน จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าตอนนั้นเรายังไม่ถึง 10 ขวบได้ แม่เรามีหนังสืออยู่แล้ว เก่าแหลกเชียว เก่าจนต้องห่อปก และแม่ก็แนะนำให้เราอ่าน ตอนแรกๆก็รู้สึกประดักประเดิดนะ ว่าคนอะไรวะนั่งเขียนจดหมายหากันแต่แทนตัวเองเป็นหมาอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง คือแบบคนนึงก็ดูรวยอะนะ นักเรียนนอก ไปเรียนโทด้านเครื่องกลถึงเยอรมัน ฐานะคงไม่ขี้ๆละ ส่วนอีกนางรึก็ตามพี่ชายไปช่วยดูแลหลานชิลๆ ไม่เห็นได้ทำงานเป็นหลักแหล่งที่ไหน ไม่เรียกรวยแล้วจะให้เรียกอะไร ฐานะดีชาติตระกูลไม่งอกง่อย แต่พากันสติเสียเขียนจดหมายหากันแบบมโนตัวเองเป็นหมาที่เลี้ยงไว้ เล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรที่เจ้าหมาสองตัวนี่ไปก่อวีรกรรมเป็นฉากๆ เล่ายังกับตามไปเห็นมาทุกเรื่องก็มิปาน นี่เป็นคนหรือเห็บเกาะหลังมากันแน่วะ ตอนแรกเริ่มรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ 

แต่อ่านๆไปมันสนุกมากเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่พิมวิ่งไล่หนูในห้องของยายแก่เพื่อนบ้าน จนแกขึ้นไปถกกระโปรงเต้นเร่าๆหนีหนูอยู่บนโซฟา เราจินตนาการภาพตามแล้วจำได้ติดตาเลย หรือจะเป็นตอนที่นิกไปวิ่งไล่ฟัดไก่ของมิชชันนารีเพื่อนบ้าน วิ่งสู้ฟัดเข้าไปในโบสถ์จนแจกงแจกันเขาแตกหักเสียหายหมด มันขำแบบวายป่วงดีชะมัด หรือจะเป็นยัยก๊กคุณนายเมียผู้กำกับหนังนั่นก็จี้เส้นเป็นบ้า นางเหมือนจะออกเสียงตัว ร.เรือ ในการควบกล้ำไม่ได้ พูดตรงๆว่าโคตรตลก นอกจากนี้นางยังพยายามขายตรงลูกสาวทั้งสองหน่อให้คุณพิเชษฐเป็นการใหญ่ นอกจากนี้ผู้อ่านจะยังได้ซึมซับบรรยากาศเมืองหนาวที่แสนโรแมนติคอย่างสวิสต์เซอร์แลนด์กันตลอดทั้งเรื่องอีกด้วย เหมาะยิ่งนักกับคนที่ชอบอะไรฟินๆจิ้นๆ 

นิกกับพิมเป็นนิยายไทยที่อ่านแล้วไม่เลี่ยน ไม่น่าเบื่อ ไม่รู้สึกยัดเยียดคำสอนอะไรจนเกินควร เรียกได้ว่าสนุกเฮฮาครบรสเลยทีเดียว ต้องขอคารวะผู้แต่งอย่างว. ณประมวลมารคเลยจริงๆที่แต่งออกมาได้ดีขนาดนี้ เคยคิดอยากให้มีคนเอาไปทำเป็นละครเหมือนกันนะเนี่ย อยากดูว่าเขาจะแคสท์ตัวแสดงหมายังไง และเราเสียดายมากที่สมัยเรียนม.2 นิกกับพิมได้รับเลือกเป็นหนังสือนอกเวลาของวิชาภาษาไทย แต่ครูไม่เห็นจะสั่งให้อ่านเลย เลือกมา 3 เล่มด้วยกัน ไม่เห็นจะสั่งให้อ่านสักเล่ม ไม่เข้าใจ (อีก 2 เล่มคือ คนอยู่วัดและพลายจำปา) นี่ถ้ามีการสอบนะ เรามันใจว่าได้ท็อปแน่นอน เพราะอ่านไป 3-4 รอบแล้วตั้งแต่เด็ก ว่าแล้วก็อยากไปขุดกรุขึ้นมาอ่านอีกสักครั้งจังเลย

อ่านอะไรต่อดี >> นิยายทุกเล่มของว. ณประมวลมารค


Friday 2 January 2015

December 2014 | Book Haul

ล่วงเลยวันที่ 20 ธันวามาได้สักพักก็เริ่มคิดแล้วว่าเดือนนี้อาจจะไม่มี book haul เพราะยังไม่อะไรที่โดนตาโดนใจสักเล่มเลย แต่ก็เหมือนโชคชะตาดลใจค่ะ มีวันนึงลองเข้าเวบของ Dasa ร้านเจ้าประจำเล่นๆ เลยเจอหนังสือดังราคาถูกมาล่อตาล่อใจค่ะ จะเป็นอะไรต้องลองมาดูกัน


สำหรับสิ่งที่ได้มาก็คือ The Millennium Trilogy จาก Stieg Larsson นักเขียนชื่อดังผู้ล่วงลับชาวสวีเดนนี่เองค่ะ พูดไปแล้วก็เสียดายเหมือนกันที่เขาไม่มีโอกาสอยู่เห็นผลงานตัวเองกลายเป็นหนังสือระดับ bestseller ไปทั่วโลก แถมยังมีคนเอาไปทำเป็นหนังดังระดับฮอลิวู้ดอีกต่างหาก ความจริงนิยายชุดนี้เราไม่เคยคิดจะอ่านเลยแหละ สารภาพตามตรงเลยแล้วกันนะ แต่เคยมีเพื่อนคนนึงยุให้เราไปหาหนังที่สร้างจากหนังสือเล่มแรกในชุดมาดู ซึ่งก็คือ The Girl with the Dragon Tattoo ค่ะ เราถามเขาว่าทำไมเราถึงจะต้องดู มันมีอะไรดีเหรอ เพราะปกติเราไม่ได้ดูหนังแนวนี้สักเท่าไหร่ เพื่อนคนนี้ให้เหตุผลกับเราว่าเพราะผู้หญิงตัวเองฉลาดมาก และมีบุคลิกภาพแนวแปลกแยกจากสังคมในแบบที่คล้ายๆเรา สองอย่างนี้คือเหตุผลหลักที่ทำให้เขามองว่ามันเหมาะกับเราค่ะ


ตอนแรกที่ดูราคาจากเวบเห็นว่า 120 บาทสำหรับเล่มแรกคืิอ The Girl with the Dragon Tattoo แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะชอบหรือเปล่า ก็เลยไม่ได้จริงจังมากกันการที่จะซื้ออีกสองเล่มที่เหลือมาด้วย แต่หลังจากที่ตั้งกระทู้ในพันทิปแล้ว หาข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว ก็คิดว่าน่าจะลองเสี่ยงดูสักตั้งค่ะ พอไปถึงร้านก็พบกับ The Girl who Played with Fire และ The Girl who Kicked the Hornest's Nest ที่มีหน้าปกเข้าชุดกันกับเล่มแรกค่ะ เป็นของสำนักพิมพ์เดียวกันเลย ขนาดเล่มก็เท่าๆกันด้วยค่ะ เป็นแบบ mass market paperback น่ะค่ะ ราคา 90 บาทด้วยกันทั้งคู่ คุ้มมากเลยละค่ะ



กับเดือนธันวาคมก็มีแค่นี้ละค่ะ จากตอนแรกที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรออกมาแล้วด้วยซ้ำ ก็ยังหามาได้สามเล่ม แถมเป็นนิยายแบบไตรภาคอีกค่ะ จัดว่าเป็นนิยายไตรภาคชุดแรกที่เรามีก็ว่าได้เลยนะ ยังไงก็สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังอีกทีนะคะ และมาติดตามการรีวิวหนังสือและการเห่อของเราได้เหมือนเช่นเคยตลอดทั้งปีนี้ค่ะ




Thursday 1 January 2015

HNY 2015



สวัสดีปีใหม่ค่ะ คนอ่านทุกคน ปีใหม่นี้คงไม่มีอะไรมาก ขอให้ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้า เจอแต่สิ่งดีๆเข้ามา lucky in game, lucky in love กันทุกคนนะ
สำหรับบล็อกของเราก็จะยังคงอยู่กันต่อไป ปณิธานปีใหม่นี้คือการอ่านหนังสือให้มากขึ้น ก็ไม่รู้ว่าจะมากกว่าเดิมได้แค่ไหน แต่ก็จะพยายามทลายกองดองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วกันค่ะ

HNY 2015, plz b gud!

post signature


Copyright © 2014 That bitch reads!

Designed By Darmowe dodatki na blogi