Q: ทำไมถึงชอบอ่านหนังสือ
A: เท่าที่จำความได้ก็เป็นเด็กที่ชอบหยิบหนังสือมาเปิดเล่นตั้งแต่ยังอ่านไม่ออกด้วยซ้ำ อาจจะเพราะเป็นลูกคนเดียวและที่บ้านไม่ค่อยปล่อยให้ออกไปเล่นที่ไหน หนังสือเลยเป็นเหมือนเพื่อนและเหมือนประตูไปสู่โลกกว้างโดยปริยาย
Q: เริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่เมื่อไหร่
A: น่าจะตั้งแต่เริ่มเดินและหยิบจับหรือรื้อของได้ด้วยตัวเองนั่นแหละ แต่ถ้าถามถึงการอ่านหนังสือแบบที่เข้าใจจริงๆน่าจะเป็นช่วงหลังอนุบาล 3 ไปแล้ว เริ่มอ่านจากนิตยสารของผู้ใหญ่ที่บ้านก่อน ส่วนพวกนิยายและวรรณกรรมต่างๆมาเริ่มเอาตอน 8-9 ขวบไปแล้ว
Q: ชอบอ่านหนังสือแนวไหน แล้วที่ไม่ชอบละ
A: ขอเริ่มที่พวกนิยายก่อนก็แล้วกัน เป็นคนชอบอ่านอะไรที่มาจากชีวิตจริง ไม่ใช่โลกมโน เรียกว่าเป็นเรื่องที่เกิดได้ขึ้นกับคนทุกคน สามารถเกิดได้กับชีวิตของเราๆท่านๆหรือคนข้างบ้าน ไม่มีเผ่าแปลกๆ ไม่มีเวทย์มนต์ ไม่รักกันข้ามสปีชีส์ ไม่มีเงื่อนไขในการใช้ชีวิตที่ไม่ตรงกับความจริงของโลกยุคปัจจุบัน เรียกว่าขอให้เป็นชีวิตจริงๆเถอะ จะมาแนวรักหวานเยิ้ม ตลกเบาสมอง น้ำเน่าเคล้าน้ำตา บู๊ระห่ำล้างเมือง สืบสวนสอบสวน คนตายไส้ทะลักอะไร ถ้ามันมาจากชีวิตจริงที่พบเห็นได้ในโลกยุคนี้เป็นอันใช้ได้ แล้วส่วนมากก็อ่านแต่นิยายต่างประเทศด้วยเพราะพล็อตเรื่องมันอิสระกว่า มิติของตัวละคร ทัศนคติ บริบททางสังคมมันน่าสนใจกว่านิยายไทย นิยายไทยส่วนมากพยายามยัดเยียดค่านิยมแบบไทยๆมากเกินไปจนไม่อิน ยิ่งนิยายของนักเขียนรุ่นเดอะส่วนมากอ่านแล้วรู้สึกมีป้าแก่ๆมายืนอบรมว่าทำตัวอย่างไรจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนไทยที่ดี เป็นหญิงไทยที่ดี หรือแม้แต่เป็นคนที่ดี เอ่อ ดีของหนูกับดีของป้ามันคนละแบบกันมั้ยคะ
ส่วนหนังสือประเภทอื่นๆที่ไม่ใช่นิยาย ก็จะชอบหนังสือประสบการณ์ท่องเที่ยวที่คนไทยเขียน เพราะมันได้แรงบันดาลใจดี รองลงมาก็จะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับประวัติคนที่เจอกับชีวิตหนักๆ การต่อสู้ในวัยเด็ก หรือได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม พวกสารคดีกึ่งบันทึกชีวิตก็ชอบเหมือนกัน หรือวรรณกรรมคริสเตียนก็ชอบนะ มีที่ดีๆหลายเล่มเลย
Q: นักเขียนคนโปรดมีใครบ้าง
A: นักเขียนไทยที่ชอบจะเป็นฝ่ายหญิงซะมากและเป็นคนที่ดูแรงๆด้วยสิ เช่น คำผกา, ธิชา ชัยวรศิลป์ หรือบก.ตี้ อดีตบก.นิตยสารปอป และ สุวรรณี สุคนธา งานเขียนของทั้ง 3 ท่านนี้สำหรับเราเรียกได้ว่าถ่ายทอดมุมมองของผู้หญิงสมัยใหม่ที่มีหัวคิดอิสระได้เป็นอย่างดี และสำนวนการเขียนก็สวยงามมากด้วย และบก.ตี้เองก็เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เรารักการเขียนเลยก็ว่าได้ ยอมรับตรงๆว่าแอบติดสำนวนการเขียนของบก.ตี้มามากพอสมควรเลย ส่วนนักเขียนสารคดีท่องเที่ยวที่ชอบก็มีแต่ฝ่ายหญิงอีกนั่นแหละ ก็จะมีกรกฎ พัลลภรักษา กับ กาญจนา หงษ์ทอง เหตุผลที่ชอบก็เพราะเรามีความใฝ่ฝันที่จะเป็นผู้หญิงนักเดินทางเหมือนพวกเธอ 2 คนนี่ละ สำหรับนักเขียนฝ่ายชายของไทยที่ชอบมีอยู่ 2 คน คนแรกนี้ไม่ใช่คนที่มีบทบาทเป็นนักเขียนชัดเจนอะไร บทบาทด้านงานแสดงและนักร้องดูจะชัดเจนสำหรับคนทั่วไปมากกว่า นั่นคือ วัชระ ปานเอี่ยม หรือพี่เจี๊ยบ วงเฉลียง เหตุผลที่ชอบคือพี่เขาปากจัดดี เสียดสีได้เจ็บจี๊ดเข้าขั้วม้าม ส่วนตัวชอบผู้ชายปากจัดอยู่แล้วด้วย อ่านแล้ววางไม่ลงเลย สำหรับคนที่สองก็จัดจ้านพอกัน แต่ออกแนวนุ่มนวลอย่างนักคิดนักเขียนวัยหนุ่มใหญ่ คือคุณโตมร ศุขปรีชา นั่นเอง
มาถึงนักเขียนต่างชาติกันบ้าง คนที่เป็นที่สุดในดวงใจตอนนี้เลยก็คือ Khaled Hosseini งานเขียนของเขาเศร้าและงดงามจับจิตจับใจอย่างมาก เรามีหนังสือครบทั้ง 3 เล่ม ถึงจะยังอ่านไม่ครบทุกเล่มแต่รู้เลยว่าจะต้องชอบทั้งหมดอย่างแน่นอน คนถัดมานี่ไม่เชิงว่าจะเป็นนักเขียนอย่างเดียวแต่ยังเป็นนักพูดสร้างแรงบันดาลใจด้วย หลายๆคนน่าจะเดาออก ใช่แล้ว Nick Vujicic นั่นเอง คงจะไม่ต้องพูดอะไรให้มากความว่าทำไมถึงชอบและกล้าการันตีเลยว่าหาคนที่ไม่ชอบเขาได้ยากเย็นเต็มที
Q: หลักในการทำรีวิวคืออะไร
A: ไม่มี ใช่ อ่านไม่ผิดหรอก ไม่มีจริงๆ อะไรที่เคยอ่านแล้วรู้สึกอยากเอามาเขียนบอกเล่าก็จะหยิบยกมาเขียน มีทั้งที่ยืมเขามาอ่าน ทั้งที่ซื้อเอง ปะปนกันไปทั้งใหม่เก่า แล้วก็จะไม่เขียนตามลำดับช่วงเวลาที่อ่านด้วย มีฟีลอยากเขียนถึงเล่มไหนตอนไหนก็เขียนมันตอนนั้นแหละ แล้วจะไม่มีการตัดเกรดหรือให้คะแนนนะ เป็นเหมือนบันทึกจากการอ่านมากกว่า เพื่อให้ใครก็ตามที่สนใจอยากซื้อหามาอ่านได้รู้เรื่องคร่าวๆว่าหนังสือเล่มนี้จะเหมาะกับรสนิยมตัวเองหรือไม่ และจะตบท้ายด้วยการให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าถ้าชอบเล่มนี้น่าจะชอบอ่านอะไรได้อีก
บางทีก็จะมี guest post มาด้วยนะ เป็นพวกเพื่อนๆที่รักการอ่านเหมือนกันนี่แหละ มา่ชวยกันรีวิวแนะนำหนังสือในแบบที่ตัวเราเองอาจจะไม่ได้อ่าน เป็นการสับเปลี่ยนบรรยากาศกันไป นอกจากนี้จะยังมีมหกรรมบ้าเห่อหนังสือที่ซื้อมาใหม่ให้ชมกันเป็นพักๆ บางเดือนอาจจะซื้อเยอะ บางเดือนไม่ซื้อเลยก็มี รวมทั้งจะมีพาทัวร์ร้านหนังสือภาษาอังกฤษมือสองหรืออีเวนท์เกี่ยวกับหนังสือและการอ่านอย่างอื่นที่น่าสนใจด้วย
บางทีก็จะมี guest post มาด้วยนะ เป็นพวกเพื่อนๆที่รักการอ่านเหมือนกันนี่แหละ มา่ชวยกันรีวิวแนะนำหนังสือในแบบที่ตัวเราเองอาจจะไม่ได้อ่าน เป็นการสับเปลี่ยนบรรยากาศกันไป นอกจากนี้จะยังมีมหกรรมบ้าเห่อหนังสือที่ซื้อมาใหม่ให้ชมกันเป็นพักๆ บางเดือนอาจจะซื้อเยอะ บางเดือนไม่ซื้อเลยก็มี รวมทั้งจะมีพาทัวร์ร้านหนังสือภาษาอังกฤษมือสองหรืออีเวนท์เกี่ยวกับหนังสือและการอ่านอย่างอื่นที่น่าสนใจด้วย
ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน