Sunday, 4 January 2015

นิกกับพิม

                                              Source

สิ่งแรกที่เราจะนึกถึงเมื่อมีใครสักคนพูดถึงนิยายเรื่องนิกกับพิมก็คือ ทาร์ตสตรอว์เบอร์รี่ที่มีครีมสดราดหน้ากับทาร์ตเนยแข็งจากร้านฮูกะแน็ง อาจจะฟังดูเป็นคนตะกละตะกลาม เนื้อเรื่องมีอะไรตั้งเยอะแยะไม่จำ ดันมาจำอะไรกับของกินก็ไม่รู้ ใช่ เรายอมรับว่าเราเป็นเด็กตะกละ (โตขึ้นก็ยังคงเป็นผู้หญิงตะกละ) แต่ที่เราจำได้เพราะร้านฮูกะแน็งเป็นเหมือนสถานที่ที่เป็นเดทแรกและเดทครั้งสุดท้ายระหว่างพิเชษฐ์, หนุ่มนักเรียนวิศวะจากเยอรมัน และมณทิรา, สาวสวยที่ตามมาพักกับพี่ชายในสวิสฯ

เรามั่นใจมากที่จะบอกว่านิกกับพิมเป็นนิยายไทยเรื่องแรกที่เราอ่าน จำได้คลับคล้ายคลับคลาว่าตอนนั้นเรายังไม่ถึง 10 ขวบได้ แม่เรามีหนังสืออยู่แล้ว เก่าแหลกเชียว เก่าจนต้องห่อปก และแม่ก็แนะนำให้เราอ่าน ตอนแรกๆก็รู้สึกประดักประเดิดนะ ว่าคนอะไรวะนั่งเขียนจดหมายหากันแต่แทนตัวเองเป็นหมาอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง คือแบบคนนึงก็ดูรวยอะนะ นักเรียนนอก ไปเรียนโทด้านเครื่องกลถึงเยอรมัน ฐานะคงไม่ขี้ๆละ ส่วนอีกนางรึก็ตามพี่ชายไปช่วยดูแลหลานชิลๆ ไม่เห็นได้ทำงานเป็นหลักแหล่งที่ไหน ไม่เรียกรวยแล้วจะให้เรียกอะไร ฐานะดีชาติตระกูลไม่งอกง่อย แต่พากันสติเสียเขียนจดหมายหากันแบบมโนตัวเองเป็นหมาที่เลี้ยงไว้ เล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไรที่เจ้าหมาสองตัวนี่ไปก่อวีรกรรมเป็นฉากๆ เล่ายังกับตามไปเห็นมาทุกเรื่องก็มิปาน นี่เป็นคนหรือเห็บเกาะหลังมากันแน่วะ ตอนแรกเริ่มรู้สึกแบบนั้นจริงๆนะ 

แต่อ่านๆไปมันสนุกมากเลยล่ะ ไม่ว่าจะเป็นตอนที่พิมวิ่งไล่หนูในห้องของยายแก่เพื่อนบ้าน จนแกขึ้นไปถกกระโปรงเต้นเร่าๆหนีหนูอยู่บนโซฟา เราจินตนาการภาพตามแล้วจำได้ติดตาเลย หรือจะเป็นตอนที่นิกไปวิ่งไล่ฟัดไก่ของมิชชันนารีเพื่อนบ้าน วิ่งสู้ฟัดเข้าไปในโบสถ์จนแจกงแจกันเขาแตกหักเสียหายหมด มันขำแบบวายป่วงดีชะมัด หรือจะเป็นยัยก๊กคุณนายเมียผู้กำกับหนังนั่นก็จี้เส้นเป็นบ้า นางเหมือนจะออกเสียงตัว ร.เรือ ในการควบกล้ำไม่ได้ พูดตรงๆว่าโคตรตลก นอกจากนี้นางยังพยายามขายตรงลูกสาวทั้งสองหน่อให้คุณพิเชษฐเป็นการใหญ่ นอกจากนี้ผู้อ่านจะยังได้ซึมซับบรรยากาศเมืองหนาวที่แสนโรแมนติคอย่างสวิสต์เซอร์แลนด์กันตลอดทั้งเรื่องอีกด้วย เหมาะยิ่งนักกับคนที่ชอบอะไรฟินๆจิ้นๆ 

นิกกับพิมเป็นนิยายไทยที่อ่านแล้วไม่เลี่ยน ไม่น่าเบื่อ ไม่รู้สึกยัดเยียดคำสอนอะไรจนเกินควร เรียกได้ว่าสนุกเฮฮาครบรสเลยทีเดียว ต้องขอคารวะผู้แต่งอย่างว. ณประมวลมารคเลยจริงๆที่แต่งออกมาได้ดีขนาดนี้ เคยคิดอยากให้มีคนเอาไปทำเป็นละครเหมือนกันนะเนี่ย อยากดูว่าเขาจะแคสท์ตัวแสดงหมายังไง และเราเสียดายมากที่สมัยเรียนม.2 นิกกับพิมได้รับเลือกเป็นหนังสือนอกเวลาของวิชาภาษาไทย แต่ครูไม่เห็นจะสั่งให้อ่านเลย เลือกมา 3 เล่มด้วยกัน ไม่เห็นจะสั่งให้อ่านสักเล่ม ไม่เข้าใจ (อีก 2 เล่มคือ คนอยู่วัดและพลายจำปา) นี่ถ้ามีการสอบนะ เรามันใจว่าได้ท็อปแน่นอน เพราะอ่านไป 3-4 รอบแล้วตั้งแต่เด็ก ว่าแล้วก็อยากไปขุดกรุขึ้นมาอ่านอีกสักครั้งจังเลย

อ่านอะไรต่อดี >> นิยายทุกเล่มของว. ณประมวลมารค


Friday, 2 January 2015

December 2014 | Book Haul

ล่วงเลยวันที่ 20 ธันวามาได้สักพักก็เริ่มคิดแล้วว่าเดือนนี้อาจจะไม่มี book haul เพราะยังไม่อะไรที่โดนตาโดนใจสักเล่มเลย แต่ก็เหมือนโชคชะตาดลใจค่ะ มีวันนึงลองเข้าเวบของ Dasa ร้านเจ้าประจำเล่นๆ เลยเจอหนังสือดังราคาถูกมาล่อตาล่อใจค่ะ จะเป็นอะไรต้องลองมาดูกัน


สำหรับสิ่งที่ได้มาก็คือ The Millennium Trilogy จาก Stieg Larsson นักเขียนชื่อดังผู้ล่วงลับชาวสวีเดนนี่เองค่ะ พูดไปแล้วก็เสียดายเหมือนกันที่เขาไม่มีโอกาสอยู่เห็นผลงานตัวเองกลายเป็นหนังสือระดับ bestseller ไปทั่วโลก แถมยังมีคนเอาไปทำเป็นหนังดังระดับฮอลิวู้ดอีกต่างหาก ความจริงนิยายชุดนี้เราไม่เคยคิดจะอ่านเลยแหละ สารภาพตามตรงเลยแล้วกันนะ แต่เคยมีเพื่อนคนนึงยุให้เราไปหาหนังที่สร้างจากหนังสือเล่มแรกในชุดมาดู ซึ่งก็คือ The Girl with the Dragon Tattoo ค่ะ เราถามเขาว่าทำไมเราถึงจะต้องดู มันมีอะไรดีเหรอ เพราะปกติเราไม่ได้ดูหนังแนวนี้สักเท่าไหร่ เพื่อนคนนี้ให้เหตุผลกับเราว่าเพราะผู้หญิงตัวเองฉลาดมาก และมีบุคลิกภาพแนวแปลกแยกจากสังคมในแบบที่คล้ายๆเรา สองอย่างนี้คือเหตุผลหลักที่ทำให้เขามองว่ามันเหมาะกับเราค่ะ


ตอนแรกที่ดูราคาจากเวบเห็นว่า 120 บาทสำหรับเล่มแรกคืิอ The Girl with the Dragon Tattoo แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะชอบหรือเปล่า ก็เลยไม่ได้จริงจังมากกันการที่จะซื้ออีกสองเล่มที่เหลือมาด้วย แต่หลังจากที่ตั้งกระทู้ในพันทิปแล้ว หาข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว ก็คิดว่าน่าจะลองเสี่ยงดูสักตั้งค่ะ พอไปถึงร้านก็พบกับ The Girl who Played with Fire และ The Girl who Kicked the Hornest's Nest ที่มีหน้าปกเข้าชุดกันกับเล่มแรกค่ะ เป็นของสำนักพิมพ์เดียวกันเลย ขนาดเล่มก็เท่าๆกันด้วยค่ะ เป็นแบบ mass market paperback น่ะค่ะ ราคา 90 บาทด้วยกันทั้งคู่ คุ้มมากเลยละค่ะ



กับเดือนธันวาคมก็มีแค่นี้ละค่ะ จากตอนแรกที่ไม่คิดว่าจะมีอะไรออกมาแล้วด้วยซ้ำ ก็ยังหามาได้สามเล่ม แถมเป็นนิยายแบบไตรภาคอีกค่ะ จัดว่าเป็นนิยายไตรภาคชุดแรกที่เรามีก็ว่าได้เลยนะ ยังไงก็สวัสดีปีใหม่ย้อนหลังอีกทีนะคะ และมาติดตามการรีวิวหนังสือและการเห่อของเราได้เหมือนเช่นเคยตลอดทั้งปีนี้ค่ะ




Thursday, 1 January 2015

HNY 2015



สวัสดีปีใหม่ค่ะ คนอ่านทุกคน ปีใหม่นี้คงไม่มีอะไรมาก ขอให้ทุกคนมีความสุขกันถ้วนหน้า เจอแต่สิ่งดีๆเข้ามา lucky in game, lucky in love กันทุกคนนะ
สำหรับบล็อกของเราก็จะยังคงอยู่กันต่อไป ปณิธานปีใหม่นี้คือการอ่านหนังสือให้มากขึ้น ก็ไม่รู้ว่าจะมากกว่าเดิมได้แค่ไหน แต่ก็จะพยายามทลายกองดองให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้วกันค่ะ

HNY 2015, plz b gud!

post signature


Copyright © 2014 That bitch reads!

Designed By Darmowe dodatki na blogi