ถ้าจะบอกว่าเราอ่านนิยายเล่มนี้ตอนเรามีอายุแค่ 17 ปี และชอบมันมาก คุณจะเชื่อกันมั้ย?
แน่นอนว่าคนที่เคยอ่านมันมาแล้วเหมือนๆกับเราคงจะตอบคำถามข้างบนของเราได้ทันทีโดยไม่ลังเลอะไร แต่สำหรับใครที่ที่ยังไม่เคยอ่านหรือไม่เคยรู้จักนิยายเรื่องนี้มาก่อน ขอให้ลองอ่านรีวิวของเราด้านล่างนี้ดู อ่านจบแล้วช่วยคอมเมนท์ตอบเราด้วยนะว่าคุณเชื่อหรือเปล่า
นิยายของ Wei Hui ที่มีชื่อว่า Shanghai Baby หรือในชื่อภาษาจีนว่า 上海宝贝 (อ่านเป็นไทยว่าเซี่ยงไฮ้เบ้าเบ่ย) เรียกได้ว่าเป็นนิยายที่แหวกขนบของประชาชาติชาวจีนเป็นอย่างมาก มากถึงขนาดที่ว่าทางการจีนไม่อนุญาตให้มีการเผยแพร่งานและสั่งเผาเสียด้วยซ้ำ แต่เป็นธรรมดาโลกที่ยิ่งมีการต่อต้านและการปิดบังเท่าไหร่ คนก็จะยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ก็เลยมีการทำก็อปปี้ไฟล์แจกกันแบบใต้ดินในโลกอินเตอร์เนท ทั้งการซีร็อกซ์ขายกันแบบผิดกฎหมาย แต่กลับกลายเป็นว่านิยายเรื่องนี้ติดอันดับ international bestseller ในประเทศตะวันตกและได้รับการแปลไปมากมายหลายภาษา รวมทั้งภาษาไทยด้วยที่ได้คำผกามาเป็นผู้แปล ซึ่งจุดนี้เราไม่แปลกใจเลยจริงๆว่าทำไมถึงเป็นเธอ ก็นิยายมันแซบขนาดนี้นี่นะ ในแวดวงนักเขียนนักแปลหญิงไทยแล้วจะหาใครหน้าไหนแซบแซงหน้าคำผกาเป็นไม่มี เราเชื่ออย่างนั้น
เนื้อเรื่องว่าด้วยชีวิตที่เต็มไปด้วยความทะยานอยากและความปรารถนาทางเพศอันเร่าร้อนที่ถมไม่เต็มของหญิงสาวที่ชื่อนิกกิ หรือคุณจะเรียกเธอว่าโกโก้ก็ได้นะ เธอชอบที่จะให้เพื่อนๆของเธอเรียกอย่างนั้นเพราะโกโก้ ขาแนล ดีไซเนอร์หญิงชื่อก้องเป็นบุคคลในดวงใจของเธอ โกโก้เกิดมาในครอบครัวชาวจีนที่แน่นอนว่าเป็นพวกหัวอนุรักษ์นิยม พ่อแม่ของเธอที่จัดได้ว่าเป็นคนมีหน้ามีตาในสังคม (ถ้าจำไม่ผิดพ่อเธอเป็นถึงอาจารย์มหาวิทยาลัยเลยทีเดียว) เลยไม่ค่อยชอบใจนักที่เธอใช้ชีวิตอิสระแบบชาวตะวันตก เธอหอบผ้าหอบผ่อนย้ายออกไปเช่าอพาร์ทเมนท์กับเทียนเทียนแฟนหนุ่มของเธออย่างง่ายๆ แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักเขียนของเธอก็ทำให้ไม่มีใครขวางเธอได้ ระหว่างนั้นเธอทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟเพื่อหารายได้เลี้ยงตัวไปพลางๆ เธอมีความฝันอย่างแรงกล้าว่าสักวันหนึ่งเธอจะกลายเป็นนักเขียนชื่อดัง ทั้งหมดทั้งปวงนี้เกิดขึ้นภายใต้ท้องฟ้าของเมืองเซี่ยงไฮ้ เมืองที่เรียกได้ว่าทันสมัยและมีความเป็นสากลมากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศจีน
โกโก้ใช้ความทะยานอยากและแรงปรารถนาเป็นพลังขับเคลื่อนชีวิตของเธอ เธอบอกว่ามันคือเหตุผลเดียวที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่ ด้วยความที่โกโก้เป็นคนที่ใช้ชีวิตของตัวเองแบบปล่อยให้ไหลไปตามแรงปรารถนา มันจึงทำให้เธอพบกับความรักมากมายหลายรูปแบบ เธอรักกับเทียนเทียนแฟนหนุ่มของเธออย่างจริงใจ เริ่มจากความเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน เป็นแค่ลูกค้าคนหนึ่งในร้านที่เธอทำงานอยู่ จากนั้นก็เริ่มเดทกันและเป็นแฟนกันในที่สุด เทียนเทียนเป็นชายหนุ่มที่ซ่อนไว้ซึ่งความเศร้าสร้อย จะว่าไปแล้วก็ไม่ซ่อนด้วยซ้ำนะ เพราะเรารับรู้ถึงความเป็นคนโศกของเขาตั้งแต่เริ่มปรากฏตัวในเรื่องเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เขาเป็นคนแบบนั้น มีปมอะไรหลายอย่างในชีวิตที่ชักพาให้เขากลายเป็นคนที่ดูหดหู่ เซื่องซึม ไร้ซึ่งความทะเยอทะยานอันใดในชีวิต มันเลยส่งผลให้เขาเป็นคนไร้สมรรถภาพทางเพศ เขาจึงให้ความสุขแก่โกโก้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร ความปรารถนาทางเพศของโกโก้นั้นเป็นเหมือนทะเลอันกว้างใหญ่ที่ไม่อาจถมให้เต็มได้โดยง่าย เมื่อโอกาสมาถึง หลังจากที่เธอได้พบกับมาร์ค หนุ่มชาวเยอรมันที่มีครอบครัวแล้ว เธอก็ปล่อยตัวปล่อยใจรับรสชาติอันร้อนแรงทางเพศที่เขาหยิบยื่นให้เธออย่างง่ายๆ มาร์คพร้อมจะเติมเต็มในสิ่งที่เธอขาด และเขาก็ทำหน้าที่นี้ได้ดีจนกระทั่งวันสุดท้ายที่ทั้งคู่ต้องบอกลากัน
การกระทำทั้งหมดของโกโก้ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึกผิดนะ การที่ต้องมีคนรักไร้สมรรถภาพก็เป็นเรื่องที่น่าทุกข์ใจอยู่แล้ว แต่ที่มันทุกข์กว่านั้นคือการที่เธอรู้ตัวดีว่าเอาชนะความเห็นแก่ตัวที่จะตอบสนองความปรารถนาของตัวเองไม่ได้ เธอไม่สามารถกักขังหัวใจที่โลดแล่นไปด้วยความปรารถนาทางเพศได้เลย เทียนเทียนเองก็ทุกข์ไม่แพ้กัน จะมีประโยชน์อะไรที่จะมีชีวิตต่อไปโดยที่รู้ว่าตัวเองไม่สามารถทำให้คนที่รักมีความสุขไปได้ในทุกๆด้าน โศกนาฎกรรมจึงเกิดขึ้นอยากหลีกเลี่ยงไม่ได้
ด้วยวัยสาว 17 ที่อ่านในตอนนั้นรู้สึกว่านิยายเรื่องนี้แซบมาก แซบตั้งแต่ที่โกโก้ย้ายไปอยู่ในอพาร์ทเมนท์กับแฟนภายในไม่กี่เดือน แซบที่โกโก้สื่อสารความต้องการทางเพศของตัวเองอย่างตรงไปตรงมาในหลายๆกรณี ไม่ว่าจะเป็นที่เธอบอกว่าเทียนเทียนให้ความสุขทางเพศแก่เธอไม่พอ หรือตอนที่เธอช่วยตัวเองเสร็จแล้วก็เอานิ้วเข้าปาก แม่เจ้า เราช่วยตัวเองมาหลายครั้งยังไม่เคยมีสักครั้งที่เราคิดจะทำแบบนั้น คนที่ทำแบบนั้นได้อย่างธรรมดาคงจะต้องเป็นคนที่มีความกระหายทางเพศสูงมากจริงๆ แซบที่สามคือเธอสามารถมีเซ็กซ์กับผู้ชายที่ไม่ได้รักแบบธรรมดามากๆ ไม่ได้มีความผูกพันธ์ทางใจอะไรเป็นพิเศษเลย จะห่วงหาอาทรกันบ้างก็เท่าที่คนรู้จักหรือเพื่อนพึงจะมีต่อกันก็เท่านั้น ไม่ใช่อย่างที่คนรักกันควรจะเป็น
ส่วนตัวคิดว่า Wei Hui สามารถสื่อสารออกมาได้แบบตรงไปตรงมามากๆเลยนะ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องให้เครดิตคำผกาด้วยที่แปลออกมาได้แบบมีรสชาติจัดจ้านมากแม้เธอจะแปลออกมาจากฉบับภาษาญี่ปุ่นก็ตาม ถึงเราจะอ่านนิยายเล่มนี้ด้วยมุมมองของเด็กสาววัย 17 ปีที่อาจจะยังผ่านโลกมาไม่มากนัก แต่ด้วยความชัดเจนของเนื้อหาแล้วเราคิดว่าเราสามารถเข้าใจความรู้สึกนึกคิด อารมณ์ และความปรารถนาต่างๆของตัวละครไม่น้อยกว่าผู้ใหญ่ที่ได้อ่านเลย เราไม่ตัดสินว่าใครผิดหรือถูกนะ บางคนอาจจะใช้มาตรวัดแบบอนุรักษ์นิยมที่มองว่าเรื่องเพศเป็นเรื่องที่ต้องเก็บงำซ่อนเร้นสำหรับผู้หญิง หรือผู้หญิงไม่ควรปล่อยให้แรงปรารถนาทางเพศเข้าครอบงำก็ตาม แต่ด้วยความเป็นคนที่มีหลากหลายอารมณ์ ความคิด ความปรารถนาที่ผสมปนเปอยู่ในตัวแล้วเนี่ย ถ้าเราไม่ได้ยืนอยู่ในจุดเดียวกับเขา เราก็ไม่มีทางไปตัดสินเขาได้เลย และเราก็ไม่มีทางรู้ด้วยว่าเราจะตัดสินใจทำอะไรแบบที่เขาทำหรือเปล่าถ้าเราได้อยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขาจริงๆ
นิยายฉบับภาษาไทยที่ได้อ่านนี้เป็นการขอยืมมาจากชั้นหนังสือของน้าสาวคนนึงที่มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของแม่ เราเห็นว่าหน้าปกสวย เราชอบริมฝีปากสีแดงคู่นั้นและชื่อของมันก็สะดุดใจดี เราไม่เคยรู้จักหรือรู้เรื่องย่อของมันมาก่อน จำได้ว่าเป็นหนังสือที่เพิ่งแปลและออกวางขายแบบสดๆใหม่ๆในช่วงนั้นเลย และเมื่อประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสซื้อ Shanghai Baby ฉบับภาษาอังกฤษไว้จากร้านมือสองเจ้าประจำ และยังมีนิยายอีกเล่มที่แต่งโดย Wei Hui เช่นกัน คาดว่าน่าจะได้อ่านในไม่ช้านี้แน่นอน
แปลโดย คุณคำผกานี่ พอจะเดาเนื้อหาได้เลยฮะ
ReplyDeleteแรงดีค่ะ แต่ตอนที่อ่านนั้นยังไม่รู้จักว่าคำผกาคือใคร หน้าตาแบบไหนก็ไม่รู้ เพิ่งมารู้จักจริงๆจังๆก็ตอนเรียนจบมหาลัยแล้วสักพักค่ะ
Deleteสปอยทีได้ไหมครับ
ReplyDeleteแง ไม่ได้เข้าบล็อกตัวเองมานานมาก จะสปอยล์ยังไงดีละเนี่ย เอาเป็นว่าไม่ได้จบแบบ happy ending แต่ก็ไม่ได้เศร้าเรียกน้ำตาอะไรน่ะ
Delete