เมื่อซื้อมาและอ่านจบจนแล้ว พบว่าภาษาสวยงามมาก สวยงามตราตรึงราวกับเราไปขึ้นไปยืนบนผาใหญ่และมองดูท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวสว่างไสวระยิบวิววาวอยู่เต็มท้องฟ้า อ่านแล้วก็ให้จินตนาการว่าตัวเราคือ "ผม" ผู้เล่าเรื่อง โอ้ เซลมา เธอช่างสูงส่งและไกลเกินคว้าเหลือเกิน เหมือนกับที่ "ผม" ยืนอยู่ตรงนี้ ได้ชื่นชมความงามของเธอ เหมือนจะใกล้ แต่ก็ช่างไกลกันเสียเหลือเกิน นี่คือความรักระหว่างหนุ่มสาวที่เป็นไปไม่ได้
ในวัย 14 อย่างนั้นเราไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากไปกว่าภาษายากๆงามๆแบบที่แทบจะต้องแปลไทยเป็นไทยเวลาอ่าน ไม่ได้รู้รายละเอียดอันลึกซึ้งอะไรมากไปกว่าความรักของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวผู้ซึ่งเขาไม่อาจจะมีเธอไว้ในครอบครอง แต่เมื่อโตขึ้น เวลาผ่านไปนานนับสิบปี เราผ่านประสบการณ์มากมายในชีวิต ทำให้เรายิ่งเข้าใจและกำซาบกับมันมากยิ่งขึ้น ทุกครั้งที่อ่านความเจ็บจะยิ่งซึมลึก มันลึกเหมือนกับว่าจะดูดเราคนอ่านเข้าไปรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับ "ผม" ในเรื่องยังไงยังงั้นเลยทีเดียวละ
เพิ่มเติมอีกเล็กน้อย ในตอนนั้นที่เราอ่านคอลัมน์จากขวัญเรือน เขาลงรูปหนังสือตามแบบด้านล่างนี่ เรารู้สึกว่ามันสวยและน่าอยากได้เอามากๆ แต่พอไปถึงร้าน Se-ed แถวโรงเรียนกลับเจอแต่ฉบับปกแข็งสีเลือดหมูตามที่ลงไว้ด้านบน แถมมีขลิบสีทองอีกต่างหาก เลยออกจะเฟลนิดๆว่ามีแต่ปกแก่ๆให้เลือกหรือยังไงกัน สุดท้ายก็ต้องเอามาเพราะอยากอ่านเสียเหลือเกิน จนมาวันนี้เริ่มรู้ซึ้งถึงคุณค่าและความสวยงามในการออกแบบหนังสือให้เป็นปกแข็งและขลิบทองเช่นนี้ ก็คงจะเหมือนกับการที่เราได้บ่มเพาะประสบการณ์ชีวิตตามเวลาสินะ จนในท้ายที่สุดเราก็สามารถซึมซับกับความเจ็บปวดจากปีกหักในแบบที่เราไม่อาจเข้าใจไปถึงเหมือนสมัยที่เรายังเป็นเด็ก
อ่านอะไรต่อดี >> ผลงานทุกเล่มของ Kahlil Gibran
No comments :
Post a Comment