1. Dear Life - Alice Munro
เล่มแรกนี้คือผลงานเรื่องสั้นของนักเขียนรางวัลโนเบลค่ะ Munro ได้รับรางวัลไปเมื่อปี 2013 ที่ผ่านมานี้เอง ความจริงเราเองก็ไม่ได้รู้จักเธอมาก่อนหรอก สารภาพตรงนี้เลย แต่เมื่อเดือนพฤษภาฯเราได้อ่านอ่านเพจของสำนักพิมพ์บทจรว่าจะมีการนำ Dear Life มาแปลให้ได้อ่านกัน เห็นหน้าปกแล้วก็ให้เกิดความอยากอ่านขึ้นมายิ่งนัก แต่กว่าจะแล้วเสร็จก็คงต้องรอไปถึงปีหน้าโน่นแน่ะ คนอย่างเรารอไม่ไหวหรอก ก็พอดีกับที่เราเจอว่า Dasa มีเล่มนี้ในสต็อกพอดี ราคาก็กำลังสวยที่ 150 บาท แบบนี้จะไม่ให้จัดยังไงไหว แอบเสียดายที่ว่าไม่ใช่หน้าปกแบบที่เราเห็นมาจากเพจของบทจรแล้วอยากได้ ปกที่ได้มานี่สวยน้อยกว่ากันมากจริงๆ แต่สิ่งที่ชดเชยความรู้สึกคือสภาพมันใหม่มาก เกิน 90% เลยก็ว่าได้
สำหรับเล่มนี้เป็นวรรณกรรมคลาสสิคที่เราว่าทุกคนคงจะรู้จักกันดีอยู่แล้วละนะ ส่วนตัวเราเองสมัยก่อนมีปัญหาว่าอ่านวรรณกรรมคลาสสิคหรือหนังสือที่มีแนวคิดฉลาดๆและซับซ้อนแล้วเฟลติดๆกันหลายหน ทำให้ขยาดไม่กล้าหามาอ่านอีก เพิ่งจะกลับมาอ่านก็ปีนี้เองแหละค่ะ เลยคิดว่าควรจะเริ่มจากเรื่องที่เนื้อหาเบาๆก่อน ไม่ต้องมีปรัชญาอะไรที่เข้มข้นมาก ก็เลยมาลงตัวที่ Jane Eyre นี่ละค่ะ บวกกับหน้าปกสวยด้วยแหละ ความจริงเราพบเห็นหน้าปกแบบอื่นมาเยอะกว่านะ แต่มาเจอหน้าปกนี้ที่ Dasa มันสะดุดตา แถมราคาและสภาพก็ยังโอเค มีติดเทปใสกันมุมปกงอไว้นิดหน่อยตรงปกหน้ามุมล่าง แต่ด้วยราคา 90 บาท เราเลยไม่คิดมากที่จะซื้อไว้ค่ะ
3. The Cradle - Patrick Somerville
คงต้องเรียกว่าเป็นม้านอกสายตาเลยก็ว่าได้สำหรับนิยายเล่มนี้ พอดีเราเจอมันที่กองหน้าเคาน์เตอร์ที่ Dasa โดยที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ากองนี้เป็นหนังสือราคาลดพิเศษ เราเข้าใจมาตลอดว่ามันเป็นกองของหนังสือที่เพิ่งรับซื้อมาและยังไม่ได้นำไปเรียงเข้าชั้น ก็เลยไม่กล้าที่จะหยิบมาดู กลัวของเขาเละเทะ แต่วันนั้นเราเห็นคนหยิบดูกันหลายคนเลยลองหยิบบ้าง โอ้ว ได้เรื่องเลยค่ะ ราคาถูกๆทั้งนั้น แต่ที่สะดุดตากับเล่มนี้จนได้กลับบ้านมาด้วยคงเป็นเพราะสภาพที่ยังใหม่จัด เกิน 95% กล้าพูดเลย เหมือนเจ้าของเดิมซื้อไปสุมๆแล้วไม่ได้อ่าน สุดท้ายเอามาขายทิ้งขำๆ กระดาษเหลืองนิดๆเพราะเก็บไว้นาน แต่ไม่ยับไม่ย่น ไม่มีรอยเปิดอ่านด้วยซ้ำ ความจริงเสี่ยงเหมือนกันที่ซื้อนิยายโดยที่ไม่รู้มาก่อนว่ามันคือแนวไหน แต่เท่าที่ลองพลิกคร่าวๆเห็นว่าไม่ใช่แฟนตาซี ไม่มีเผ่าแปลก ไม่รักกันข้ามพันธุ์ ไม่มีโลกมโน แค่นี้ถือว่าใช้ได้สำหรับเราแล้ว ค่าตัวอยู่ค่ะ 49 เท่านั้น ถูกไปไหน
นี่ก็เป็นอีกเล่มที่ได้มาด้วยความบังเอิญค่ะ วันนั้นเป็นวันเสาร์ที่เราตั้งใจว่าจะไปนั่งพักผ่อนที่สวนเบญจศิริสักหน่อย แต่ไปแล้วฟาวล์ สวนโดนทหารปิด ก็เลยไปชิลที่ Dasa ดีกว่า เข้าร้านไปไม่ทันไรก็ติดฝนในร้าน เลือกหนังสืออยู่นานก็ไม่เจออะไรที่อยากได้ เพราะไม่ได้ทำการบ้านไปก่อนด้วย เลือกไม่ถูกเท่าไหร่ เดินวนไปมานานมาก จนมาเจอเข้ากับ Love Monkey ที่กองลดราคาหน้าเคาน์เตอร์นั่นแหละค่ะ ปกแข็งซะด้วย สภาพยังโอเค กระดาษเหลืองเล็กน้อย dust jacket ด้านหน้าตรงขอบบนหักงอนิดหน่อย ไม่ถึงกับน่าเกลียดมาก ตอนนั้นเปิดดูคร่าวๆพบว่าเป็นแนว lad-lit ถือว่าน่าสนใจก็เลยเอาเล่มนี้แหละ กับราคา 79 บาทก็ถือว่าคุ้มนะ เพราะเล่มใหญ่เอาการเลย
5. And the Mountains Echoed - Khaled Hosseini
ด้วยความที่เป็นงานของนักเขียนคนโปรดที่อยากได้มานาน ก็เลยตัดใจถอยมือหนึ่งมาจาก AsiaBooks เลยค่ะ ตอนนั้นที่ไปเข้าใจว่าจะลด แต่ก็ไม่ยักได้ลดแฮะ จ่ายไปราคาเต็มๆที่ 325 บาทค่ะ เบลอไปทั้งวันเลยนะเสียเงินซื้อหนังสือแพงเกิน 300 แบบนี้ ปกติซื้อแต่มือสองจนติด สำหรับเนื้อหาก็ไม่พ้นมิตรภาพที่งดงามของพี่น้องวัยเด็กและสงครามอัฟกานิสถาน หดหู่แต่งดงามคือนิยามของผู้ชายคนนี้ค่ะ
6. Jakarta Undercover II - Moammar Emka
หนังสือเล่มนี้เป็นแนวสารคดีที่มีภาคต่อมาจากเล่มแรกค่ะ เอาจริงๆเราก็ไม่รู้จักมาก่อนหรอก แต่วันนี้เดินเล่นเตร็ดเตร่ที่ AsianBooks สาขาสุขุมวิท แล้วป๊ะเข้ากับชั้น bargain พอดี มีหลายๆเล่มที่ราคาไม่ถึงร้อย ก็เลยลองค้นดูว่าจะได้อะไรติดมือมาบ้าง จนมาสะดุดตาเข้ากับเล่มนี้ค่ะ เรื่องของเรื่องคือเรามีเพื่อนคนอินโดฯหลายคน แต่มีคนที่สนิทที่สุดเพิ่งซื้อหนังสือเกี่ยวกับไทยไป เราเห็นชื่อเล่มนี้เลยอยากซื้อหนังสือของบ้านมันบ้าง ตอนแรกก็เดาโทนไม่ออกนะว่าเกี่ยวกับอะไร พลิกไปอ่านด้านหลังทำเอาตาลุกวาว เพราะเป็นหนังสือที่ตีแผ่ชีวิตกลางคืนใน Jakarta ค่ะ ทั้งพวกขายบริการ คาราโอเกะ อาบอบนวดต่างๆ มีพูดถึงหญิงไทยที่ทางนั้นอิมพอร์ตไปด้วยนะ ที่ฟินมากคือตอนหนังสือเล่มนี้ออกใหม่ๆราคาหย่อนจาก 500 ไปแค่ 5 บาท มาวันนี้ซื้อได้ในราคา 99 เท่านั้น แต่ซื้อช้าไปเป็น 10 ปีเลยนะ ฮ่าๆ
7. Forget You Had a Daughter - Sandra Gregory
บันทึกของหญิงสาวชาวอเมริกันที่มาติดคุกในไทยด้วยข้อหายาเสพติด เธอติดคุกอยู่นานหลายปีทีเดียวกว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ เนื้อหาหนักใช้ได้เลย เพิ่งจะรู้เหมือนกันว่าฝรั่งเขาเรียกคุกบางขวางบ้านเราว่า Bangkok Hilton เป็นคำเปรียบเทียบที่ดาร์กเอาการเลย เล่มนี้ค่าตัวเท่าเล่มเมื่อกี้ที่ 99 บาทค่ะ
8. The Hundred Foot Journey - Richard C. Morais
เล่มนี้เรารู้จักจากการอ่านกระทู้แนะนำหนังค่ะ มีคนบอกว่าปีหน้าจะมีหนังออกมาโดยมีโอปราห์ วินฟรีย์เป็นโพรดิวเซอร์ด้วย อ่านเนื้อหาคร่าวๆแล้วรู้สึกว่าน่าดูและน่าอ่านดี เกี่ยวกับครอบครัวอินเดียที่มีกิจการร้านอาหารในปารีส แต่ซวยมากที่ร้านเปิดตรงข้ามกับภัตตาคารฝรั่งเศสระดับ 3 ดาวมิชลิน มาช่วยลุ้นกันนะว่ากิจการจะไปได้ดีหรือร่อแร่ยังไง ฮ่าๆ ความจริงเราตามเล่มนี้มานานมากแล้วเหมือนกัน เคยมีเข้ามาในสต็อกร้านประจำเราด้วยแหละ แต่เราสั่งช้าไปวันเดียว โดนคนตัดหน้าไปก่อนเลย เจ็บใจมากๆ คราวนี้พอเจออีกไม่มีคนตัดหน้าแล้ว ได้มาง่ายๆสบายๆที่ราคา 190 บาทกับสภาพเหมือนใหม่ มุมล่างขวางอนิดเดียว ถ้าไม่สังเกตก็แทบไม่เห็น
9. High Fidelity - Nick Hornby
เป็นนิยาย lad-lit เล่มแรกๆที่เรารู้จักเลยก็ว่าได้ ความจริงรู้จักตัวหนังก่อน ได้ดูแล้วชอบคอนเส็ปท์มากๆ เล่าเรื่องความรักของพระเอกโดยการเปรียบเทียบกับเพลงร็อก เพราะฮีทำงานที่ร้านขายแผ่นเสียง ความจริงที่ Dasa มีหนังสือของ Nick วนเข้ามาเนืองๆเลยนะ เราเองก็หยิบๆจับๆมาหลายทีเหมือนกันไม่ว่าจะเป็นเล่มนี้หรือ About a Boy แต่มันก็เยินจนไม่อยากซื้อ บางทีก็ใหม่แต่แพงไป ถ้าเทียบกับเล่มอื่นๆที่เคยซื้อมาน่ะนะ ก็เลยไม่ได้ฤกษ์ซะที จนในที่สุดมาเจอกับเล่มนี้ที่สภาพเหมือนใหม่ ราคาแค่ 120 บาท เลยยอมควักง่ายๆแต่โดยดี
สำหรับเดือนมิถุนาฯก็จัดไปเบาะๆที่ 9 เล่มแล้วกันค่ะ ยังไงต้นเดือนหน้ามารอดูแล้วกันว่าในกรกฎาคมนี้เราจะซื้อมากน้อยแค่ไหน จะทำยอดไปได้ทั้งหมดกี่เล่ม แต่ก็ตั้งใจว่าจะเพลาๆลงแล้วละ สัญญากับเบบี๋ไว้ว่าจะอ่านของเก่าๆให้หมดก่อนแล้วค่อยซื้อของใหม่ คงต้องควบคุมความอยากให้ได้มากกว่านี้ซะแล้ว เห็นอะไรก็อยากได้ไปหมดเลย
No comments :
Post a Comment