ร้านหาไม่ยากแน่นอนเพราะเขามีป้ายเบ้อเริ่มวางไว้หน้าร้านอย่างเด่นชัดแบบนี้เลยค่ะ มีน้องแมวตาโตบนป้ายมาช่วยเรียกแขกหน้าร้านทุกวัน และมีป้ายรับซื้อของนั่นโน่นนี่ด้วยนะ ส่วนมุมล่างขวา เอ่อออ นั่นหัวเพื่อนเราเองนะ ไม่ต้องตกใจ ฮ่าๆ
มาดูหน้าร้านแบบหน้าตรงกันมั่งดีกว่า ทางร้านจะมีชั้นหนังสือแบบโปร่งมาตั้งเรียงกันไว้หน้าร้าน 4-5 ชั้นเห็นจะได้ แต่วันนี้คนเฝ้าร้านไม่ยักกะใช่คนไทยแฮะ สมัยก่อนโน้นเรามาทีไรจะเจอคนไทยตลอดนะ เจ้าของร้านเป็นชาวอิตาเลียนแต่เขาจ้างคนไทยไว้เฝ้าร้าน มาวันนี้ไม่รู้ร้านเปลี่ยนมือหรือยังไง เพราะที่เห็นเป็นสาวแขก หน้าตาดูคล้ายแขกเบงกาลี (แน่ะ มีไปรู้เชื้อชาติเขาอีก) ตั้งแต่เราไปถึงร้านนางก็จ้อโทรศัพท์ไม่หยุดยันเรากลับเลย
มุมนี้ขายแค่เล่มละ 50 บาทเท่านั้น หนังสือยุคเก่าได้ใจ สีเหลืองจนน้ำตาล บางเล่มเกือบๆจะกรอบแล้วด้วยซ้ำ ลองมองดูดีๆเจอหนังสือปลอมด้วยนะน่ะ
มาดูที่ชั้นในฝั่งซ้ายบ้าง โอ้วมายก๊อด ปลอมยกชั้นค่ะคุณพระคุณเจ้า ความจริงจะเรียกว่าปลอมก็คงจะไม่ตรงนัก ต้องบอกว่าเป็นหนังสือเถื่อนหรือหนังสือละเมิดลิขสิทธิ์จะตรงกว่า เพราะพี่แกเล่นเอามาซีร็อกซ์สีทั้งดุ้นเลย แต่มันก็ไม่เนียนหรอก ยกมาดูใกล้ๆก็รู้แล้ว หนังสือพวกนี้ส่วนมากได้มาจากแถบประเทศเพื่อนบ้านทั้งนั้น
ถ้าเป็นนิยายเก่าคร่ำคร่าแบบในรูปนี้ เก่าจนกระดาษกลายเป็นสีน้ำตาลแถมมีฝุ่นจับหนาเตอะ แบบนี้แสดงว่าเป็นหนังสือแท้แน่นอน แต่ส่วนมากจะไม่เจองานของนักเขียนดังสักเท่าไหร่
เข้ามาในตัวร้านกันซะทีนะ หนังสือเถื่อนยังคงมีให้พบได้ทั่วไปในทุกชั้นและทุกมุม ยังไงก็ต้องเลือกกรองดูดีๆ หลายๆเล่มจะห่อพลาสติคไว้ด้วยและส่วนมากเล่มจริงจะไม่ค่อยห่อแฮะ ก็แปลกดีเหมือนกัน
ถึงร้านจะมีแค่ชั้นเดียวแต่ชั้นหนังสือนี่สูงเทียมเพดานเลย จากภาพเมื่อกี้ถึงได้มีบันไดไว้บริการยังไงละ ลำพังแค่หยิบชั้นที่สูงเกินหัวก็เอื้อมกันจะแย่แล้ว ตามประสาคนสูงน้อยอย่างเรา
ในร้านนี่ร้อนน้อยกว่าที่คิดพอสมควรเลยนะ ตอนก่อนจะเข้าร้านนี่ด้านนอกร้อนมาก แต่เขาติดพัดลมไว้หลายจุดพอสมควร เลยทำให้ร้านไม่อับ พอจะคลายร้อนได้เล็กน้อย
ความจริงการไปครั้งนี้แรกเริ่มเดิมทีเราไม่ได้ตั้งใจจะไปเดินหาหนังสือหรอกนะ แต่พอดีว่าเพื่อนคนอินโดฯมาเที่ยวไทยช่วงหลังสงกรานต์แล้วนางอยากแวะข้าวสาร เราก็เลยสนองศรัทธาซะหน่อย ทำให้นึกขึ้นได้ว่ามีร้าน Shaman อยู่ที่นี่ งั้นลองแวะหน่อยแล้วกัน ไหนๆไปแล้วก็อย่าให้เสียเที่ยว โอเค กลับมาว่ากันที่เรื่องหนังสือต่อ อย่างที่บอกน่ะค่ะว่ามันมีหนังสือเถื่อนเยอะจริงๆ แถมหลายๆเล่มที่เราเช็คนี่ขายแพงกว่าร้านอื่นๆเช่นตามสวนจตุจักรมาก เราไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ สมัยก่อนที่เราไปข้าวสารบ่อยๆเราแวะที่นี่แทบทุกทีนะ ช่วงปี 2005-2008 น่ะ ถึงจะไม่ได้ซื้อเยอะมาก แต่ก็ไม่เคยเจอหนังสือเถื่อนเยอะเท่านี้มาก่อนเลย จะมีก็แต่พวกไกด์บุคอย่าง LP หรือ DK ที่พอจะไว้ใจได้ นอกนั้นไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือหนังสือหมวดอื่นๆนี่พบว่าเป็นของเถื่อนครึ่งต่อครึ่งเลย คือมันเป็นอัตราที่สูงมากเลยนะ เพื่อนเราเองซื้อนิยายคลาสสิคไปเล่มนึง โชคยังดีที่ไม่ปลอม แต่ก็จ่ายไปในราคาที่แพงกว่า Dasa และสภาพแย่กว่าเหมือนกัน ไม่ดีเลย
หลังจากนั้นเราพาเพื่อนเดินไปทางถนนพจักรพงษ์ก็เจอกับอีกร้านนึง ไม่ใช่ร้านขายหนังสือโดยตรงหรอก แค่มีแผงตั้งไว้ขายด้วยนิดหน่อยหน้าร้าน ลองจับๆดูก็เจอหนังสือเถื่อนเหมือนกัน น่าแปลกที่แผง we buy everything ตามถนนรามบุตรีกลับไม่ค่อยเจอแบบนี้เท่าไหร่ ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน สรุปคือคงจะไม่กลับไปซื้ออีกแล้วละ เพราะที่ร้านประจำและตามจตุจักรยังไว้ใจได้มากกว่า แถมราคาก็ถูกกว่าด้วย นี่อะไร ปลอมก็ปลอมแถมขายแพงกว่าของแท้ในร้านอื่นอีก ความจริงเพื่อเครดิตของทางร้านเองถึงนักท่องเที่ยวจะได้หนังสือเถื่อนมาโดยที่รู้ตัวหรือไม่รู้ก็ตาม แล้วเอามาขายต่อแบบนี้ ทางร้านน่าจะดูออกและไม่รับซื้อไว้นะ นี่ก็ยังซื้อมาแถมขายแพงชนิดที่ว่าร้านอื่นที่ขายของแท้ขายได้ถูกกว่า หรือไม่ก็เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยก็ซื้อของจริงมือหนึ่งได้ มันไม่ไหวเลยนะแบบนี้
ขอจบเท่านี้ละกันค่ะสำหรับการพาไปชมร้านหนังสือมือสองเก่าแก่แห่งนึงในถนนข้าวสาร ไว้ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะพาไปเที่ยวชมร้านอื่นๆอีก แต่จะเป็นที่ไหนต้องอดใจรอกันนะ
No comments :
Post a Comment